เตือนภัยสุขภาพเด็ก!! อันตรายจากขนมขบเคี้ยว

ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าข้าพเจ้าได้อ่านและเข้าใจนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย โอน หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ รวมทั้งได้รับทราบถึงสิทธิของข้าพเจ้าในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมทั้งกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องและมีความเข้าใจเป็นอย่างดีแล้ว

• ข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ ชื่อ นามสกุล เพศ อายุ วันเดือนปีเกิด

• ข้อมูลเพื่อการติดต่อ ได้แก่ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล

• ข้อมูลบัญชีโซเชียลมีเดีย ได้แก่ บัญชีผู้ใช้งานไลน์ (LINE), เฟซบุ๊ก (Facebook), บัญชีผู้ใช้งาน Google, และประวัติการใช้งาน

• หลักฐานและข้อมูลที่ใช้ในการแสดงตัวตน ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง หมายเลขประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง เป็นต้น (เฉพาะผู้ร่วมกิจกรรมที่ได้รับรางวัลจากกิจกรรมและหรือการแลกของรางวัลบนเว็บไซต์ Unif Health Wallet)

• ข้อมูลการเข้าใช้งานเว็บไซต์ ข้อมูลการบริโภคและซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ ได้แก่ พฤติกรรมการซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์และการบริโภค, พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการตลาดและส่งเสริมการขาย, ช่องทางการซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์, ช่องทางการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์

• ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรม ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมกิจกรรมและพฤติกรรมการเข้าร่วมในเว็บไซต์ www.unifhealthwallet.com

การที่ข้าพเจ้าได้กดปุ่ม ยินยอม หรือไม่ยินยอม ในกล่องข้างล่างนี้เป็นการยืนยันว่า ข้าพเจ้ากระทำด้วยความสมัครใจ ปราศจากการบังคับหรือชักจูง การถอนความยินยอมจะไม่มีผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว ข้าพเจ้าเข้าใจในรายละเอียดตลอดจนวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย โอน หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าเพื่อดำเนินการดังต่อไปนี้

• เพื่อปรับปรุงสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ บริการ หรือประสบการณ์การใช้งาน และรวบรวมข้อเสนอแนะต่างๆ

• เพื่อการตลาดและการส่งเสริมการขาย

• เพื่อปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไขในการเข้าร่วมกิจกรรม

• เพื่อยืนยันตัวตนในการรับรางวัลสำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมและผู้แลกของรางวัลในเว็บไซต์ที่ได้รับรางวัลจากกิจกรรมเพื่อการตลาดและการส่งเสริมการขายที่บริษัทจัดขึ้น

• เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการส่งเสริมการขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ กิจกรรมเพื่อการตลาด การโฆษณาสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ปัจจุบัน รวมถึงสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทให้กับเจ้าของข้อมูลผ่านช่องทางการติดต่อต่างๆ อันได้แก่ หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล, บัญชีผู้ใช้งานไลน์ (LINE),บัญชีผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก (Facebook), บัญชีผู้ใช้งาน Google

โปรดอ่านเงื่อนไขและข้อกำหนดการใช้เว็บไซต์นี้อย่างละเอียดรอบคอบก่อนที่ ผู้ใช้เว็บไซต์ ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ท่าน” จะใช้เว็บไซต์ www.unifhealthwallet.com เนื่องจากเงื่อนไขและข้อกำหนดเหล่านี้จะมีผลต่อการใช้งานเว็บไซต์นี้ การที่ท่านใช้เว็บไซต์นี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขและข้อกำหนดการใช้เว็บไซต์นี้ โดยชัดแจ้งแล้ว โดยท่านได้ตกลงและยอมรับอย่างไม่มีเงื่อนไขที่จะผูกพันตามเงื่อนไขและข้อกำหนดนี้ หากท่านไม่ตกลงยินยอมในส่วนหนึ่งส่วนใดของเงื่อนไขและข้อกำหนดนี้ ขอให้ท่านอย่าใช้และยุติการเข้าเว็บไซต์นี้โดยทันที

เงื่อนไขและข้อกำหนดนี้ใช้กับการใช้เว็บไซต์นี้ ผลิตภัณฑ์ หรือสินค้า หรือบริการ หรือกิจกรรมบางอย่าง มีข้อตกลงและเงื่อนไขเฉพาะของตน ซึ่งเป็นการเพิ่มเติมไปจากเงื่อนไขและข้อกำหนดนี้ ในกรณีที่ข้อตกลงและเงื่อนไขสำหรับผลิตภัณฑ์หรือสินค้าหรือบริการหรือกิจกรรมบางอย่างโดยเฉพาะ รวมถึงเงื่อนไขและข้อกำหนดใดๆ ที่ปรากฏบนหน้าจอของท่านเมื่อใช้ส่วนใดๆ ของเว็บไซต์นี้ มีข้อความไม่ตรงกันระหว่างเงื่อนไขและข้อกำหนด กับ ข้อตกลงและเงื่อนไขสำหรับผลิตภัณฑ์หรือสินค้าหรือบริการหรือกิจกรรมบางอย่างโดยเฉพาะแล้ว ให้ใช้ข้อตกลงและเงื่อนไขสำหรับผลิตภัณฑ์หรือสินค้าหรือบริการหรือกิจกรรมบางอย่างโดยเฉพาะบังคับ สำหรับผลิตภัณฑ์หรือสินค้าหรือบริการหรือกิจกรรมนั้น

บรรดาข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏบนเว็บไซต์
www.unifhealthwallet.com เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท” และ/หรือเจ้าของข้อมูลนั้นๆ ซึ่งได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

การเข้าเป็นสมาชิกของผู้ใช้เว็บไซต์

เพื่อให้ ผู้ใช้เว็บไซต์ ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ท่าน” สามารถใช้บริการเว็บไซต์ของทางบริษัทได้อย่างครบถ้วน ท่านสามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกได้ตามวิธีการที่บริษัทกำหนดไว้ในเว็บไซต์ บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะปฏิเสธการสมัครสมาชิกของผู้ใช้เว็บไซต์บางท่าน รวมทั้งมีสิทธิยกเลิกการสมัครเป็นสมาชิกหรือระงับการใช้บริการของผู้ใช้เว็บไซต์ทุกท่านได้ตลอดเวลาตามดุลพินิจของบริษัทโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าในกรณีที่มีการกระทำหรือเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น อาทิเช่น มีกรณีการละเมิดเงื่อนไขและข้อกำหนดการใช้เว็บไซต์ หรือมีกรณีที่ผู้ใช้เว็บไซต์ทำการซื้อขาย แลกเปลี่ยน หรือโอนบัญชีสมาชิกไปยังบุคคลอื่น เป็นต้น

เว็บไซต์นี้มิได้จัดขึ้นเพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้เว็บไซต์ซึ่งเป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือสมาชิกของผู้ใช้เว็บไซต์ที่เคยถูกยกเลิกการเป็นสมาชิกหรือระงับการใช้บริการไปแล้ว หรือกรณีอื่นใดตามดุลพินิจของบริษัท หากบริษัทพบว่ามีบุคคลที่มีคุณสมบัติบกพร่องดังกล่าวข้างต้นฝ่าฝืนเข้าใช้บริการเว็บไซต์ บริษัทมีสิทธิยกเลิกการสมัครเป็นสมาชิกหรือระงับการใช้บริการของบุคคลนั้นได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ท่านยินยอมผูกพันตนตามเงื่อนไขและข้อกำหนดการใช้เว็บไซต์ www.unifhealthwallet.com ตามนโยบายการให้บริการข้อมูลผ่านเว็บไซต์ของบริษัท ดังนี้

1. การนำเสนอข้อมูลข่าวสารทั้งหมดในเว็บไซต์ของบริษัทเป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นที่เกี่ยวกับบริษัท ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าหรือบริการหรือกิจกรรมของบริษัท โดยจะเป็นนโยบายการให้บริการทางการตลาดและข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าหรือบริการหรือกิจกรรมของบริษัทเท่านั้น การนำเสนอข้อมูลดังกล่าวนั้น บริษัทไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวจะมีความถูกต้องโดยปราศจากข้อผิดพลาดใดๆ การนำเสนอข้อมูลดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดสิทธิ ความรับผิดชอบ หรือภาระผูกพันในทางกฎหมายไม่ว่ากรณีใดๆ ระหว่างบริษัทกับท่าน ซึ่งท่านตกลงและยอมรับว่าข้อมูลและส่วนประกอบต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า

2. บรรดาข้อความ ภาพ เสียง เนื้อหา และหรือส่วนประกอบใดๆ ที่ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้เป็นงานอันได้รับความคุ้มครองในเรื่องลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ ชื่อทางการค้า สิทธิบัตร ตลอดจนสิทธิอื่นๆ ตามกฎหมายที่เกี่ยวด้วยทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงกฎหมายอื่นที่ใช้บังคับในประเทศไทย การทำซ้ำ ดัดแปลง ลอกเลียน แก้ไข เผยแพร่ต่อสาธารณชน จำหน่าย มีไว้ หรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบจากทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทและหรือสิ่งต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นโดยไม่ได้รับอนุญาตล่วงหน้าเป็นหนังสือจากบริษัทหรือจากบุคคลอื่นที่เป็นเจ้าของเนื้อหาบนเว็บไซต์ หรือกระทำการในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท บริษัทจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำดังกล่าวโดยทันที

3. ท่านตกลงและรับรองว่าข้อความที่ท่านระบุหรือให้ข้อมูลอันเกี่ยวเนื่องกับการใช้เว็บไซต์ เช่น การลงทะเบียน การโพสต์ข้อความ การลงประกาศ การส่งต่อข้อมูลให้กับบริษัทหรือผู้ใช้เว็บไซต์รายอื่นที่ใช้เว็บไซต์ หรือโดยวิธีการอื่นใดเป็นข้อมูลที่เป็นจริงและไม่เป็นการละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น

4. ท่านตกลงจะใช้เว็บไซต์นี้เพื่อวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย และไม่ขัดกับศีลธรรม หรือจารีตประเพณีอันดีงามของประเทศไทย รวมทั้งไม่กระทำการใดอันเป็นการล่วงละเมิด ดูหมิ่นสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

5. ท่านอนุญาตให้บริษัทเข้าถึงข้อมูลทั่วไปของท่านในบริการของบุคคลที่สาม เช่น Facebook เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ท่านเข้าถึงบริการและการใช้งานต่างๆ ในเว็บไซต์นี้ได้ การใช้บริการ การโพสต์ข้อความ ภาพ หรือรีวิวนั้น ท่านจะต้องสมัครสมาชิกก่อนเสมอ ท่านจะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องตามความเป็นจริงตามหัวข้อที่บริษัทกำหนดไว้ นอกจากนี้ ท่านจะต้องไม่สร้างบัญชีผู้ใช้อัตโนมัติหรือปลอมแปลงข้อมูลผู้ใช้ รวมทั้งต้องไม่ใช้นามแฝงอันเป็นชื่อจริงของผู้อื่น โดยมีเจตนาทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดและเจ้าของชื่อผู้นั้นได้รับความเสียหายหรือเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยประการสำคัญ ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจสอบให้แน่ใจว่าบุคคลใดก็ตามที่เข้าใช้เว็บไซต์นี้ผ่านทางอินเตอร์เน็ตของท่านทราบถึงข้อมูลเนื้อหาในเงื่อนไขและข้อกำหนดการใช้เว็บไซต์และเงื่อนไขอื่นๆ ที่ได้ระบุไว้แล้วทั้งหมด

6. ท่านจะไม่กระทำการและตกลงที่จะไม่ให้ผู้อื่นทำสำเนา ทำขึ้นใหม่ พิมพ์ขึ้นใหม่ อัพโหลด แปะ โพสต์ข้อความ ลงประกาศ ส่งหรือกระจาย หรือสื่อสารแก่สาธารณะ ซึ่งเนื้อหาใดๆ ที่ให้บนเว็บไซต์นี้ รวมถึงข้อความ ภาพ ไอคอน ปุ่ม คลิปเสียง ภาพ การดาวน์โหลดทางดิจิตอล การรวบรวมข้อมูล และซอฟท์แวร์ โดยไม่ได้รับ อนุญาตล่วงหน้าเป็นหนังสือจากบริษัท และหรือเจ้าของข้อมูล เว้นแต่การดาวน์โหลด แสดง และพิมพ์สิ่งที่แสดงบนเว็บไซต์นี้เฉพาะเพื่อการใช้ส่วนตัวของท่าน และไม่ใช่เพื่อการค้าเท่านั้น

7. ท่านจะไม่กระทำการและตกลงที่จะไม่ให้ผู้อื่นกระทำการใดๆ ที่ก่อให้เกิดประเด็นเกี่ยวกับแนวคิดหรือความเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันไม่ว่าฝ่ายใดก็ตาม และไม่นำเสนอข้อความ เนื้อหา หรือรูปภาพอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในระหว่างสถาบันการศึกษาหรือระหว่างสังคมใดๆ

8. ท่านจะไม่กระทำการและตกลงที่จะไม่ให้ผู้อื่นใช้เครื่องมือ หรือโปรแกรม หรือวิธีการที่มีกระบวนการใดๆ ในการตรวจดู หรือทำสำเนาหน้าเว็บไซต์ ข้อมูล หรือเนื้อหาใดๆ ที่ปรากฏบนเว็บไซต์นี้ ไม่ว่าในกรณีใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตล่วงหน้าเป็นหนังสือจากบริษัท

9. ท่านจะไม่กระทำการและตกลงที่จะไม่ให้ผู้อื่นแก้ไข เปลี่ยนแปลง ทำให้กระจัดกระจาย ดัดแปลง แยกออก ทำวิศวกรรมย้อนกลับ หรือสร้างงานดัดแปลง หรือ วิธีการอื่นใดจากเนื้อหาหรือส่วนประกอบใดๆ จากเว็บไซต์นี้

10. ท่านจะไม่กระทำการและตกลงที่จะไม่ให้ผู้อื่นส่ง หรือเชื่อมโยงเว็บไซต์หรือข้อมูลเว็บไซต์นี้ หรือกระทำโดยประการอื่นเพื่อกระจายสู่คนจำนวนมาก หรือเพื่อผลประโยชน์ในทางการค้าใดๆ อันอาจทำให้บริษัทได้รับความเสียหายหรืออาจถูกละเมิดสิทธิ หรือทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่าท่านได้รับการสนับสนุน หรือเป็นตัวแทน หุ้นส่วน หรือมีความสัมพันธ์ใดๆ ทางธุรกิจหรือความสัมพันธ์อื่นๆ กับบริษัท หรือเว็บไซต์ของบริษัท

11. ท่านจะไม่กระทำการและตกลงที่จะไม่ให้ผู้อื่นใช้เครื่องมือ หรือซอฟท์แวร์ใดๆ หรือกระทำการใดๆ ในการแทรกแซง หรือพยายามที่จะแทรกแซงการทำงานตามปกติของเว็บไซต์นี้

12. ท่านตกลงจะไม่ใช้ที่อยู่อีเมลที่ชวนให้เข้าใจผิด หรือปลอมแปลงข้อมูลส่วนใดๆ ในเว็บไซต์นี้ รวมทั้งจะไม่กระทำการและตกลงที่จะไม่ให้ผู้อื่นใช้เว็บไซต์นี้ และหรือเนื้อหา วัสดุที่อยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับอนุญาต

13. ท่านจะไม่กระทำการและตกลงที่จะไม่ให้ผู้อื่นกระทำการใดๆ อันอาจเป็นการละเมิดสิทธิ หรือก่อให้เกิดความเสียหาย ไม่ส่งหรือเขียนข้อความที่ไม่ถูกกฎหมาย หยาบคาย ลามก อนาจาร ข่มขู่ ดูหมิ่น หมิ่นประมาท ส่อเสียด คุกคาม ว่ากล่าวให้ร้าย กรรโชก ท้าทาย ยั่วโทสะ ชักชวน รบกวนใจ ละเมิดสิทธิ เหยียดหยาม ยั่วยุให้เกิดอารมณ์ทางเพศ หรือทำการโดยประการอื่นใดในลักษณะดังกล่าว หรือไม่ส่งหรือเขียนเนื้อหาหรือข้อความหรือวัสดุใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดหรือส่งเสริมการกระทำที่อาจพิจารณาได้ว่าเป็นความผิดทางอาญา หรือเป็นเหตุให้เกิดความรับผิดทางแพ่ง หรือฝ่าฝืนกฎหมาย หรือระเบียบ หรือจรรยาบรรณใดๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งไม่เสนอข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น เช่น อีเมล หรือหมายเลขโทรศัพท์ โดยมีเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย

14. ท่านตกลงและยอมรับว่าบรรดาข้อมูลบางส่วนในเว็บไซต์นี้ เช่น ความเห็น หรือ การตั้งกระทู้ผ่านเว็บไซต์ในหัวข้อต่างๆ ของผู้ใช้เว็บไซต์รายอื่น เป็นข้อมูลหรือ ข้อความที่เขียนขึ้นโดยบุคคลภายนอกหรือผู้ใช้เว็บไซต์บางราย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องและอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัท ดังนั้น บริษัทจึงไม่มีความรับผิดใดๆ ที่เกิดจากข้อมูลหรือข้อความดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นความเสียหาย การฟ้องร้อง การเรียกร้อง หรือการกระทำละเมิดใดๆ ไม่ว่าในทางแพ่งหรือทางอาญา หรือความรับผิดใดๆ ในทางกฎหมาย

15. ท่านตกลงและยอมรับว่าเวลาในการโพสต์ข้อความ ภาพ หรือรีวิว และระยะเวลาในการเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ในเว็บไซต์เป็นการตัดสินใจของบริษัท ท่านไม่สามารถโต้แย้งได้ นอกจากนี้ ท่านตกลงอนุญาตให้บริษัทสามารถใช้ข้อมูลหรือรูปภาพที่ท่านได้ส่ง โพสต์ข้อความ หรือรีวิว ทั้งในหรือผ่านเว็บไซต์ เพื่อวัตถุประสงค์ใดๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการบริหารและจัดการเว็บไซต์ หรือการโปรโมทเว็บไซต์ รวมถึงการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวต่อผู้ใช้เว็บไซต์อื่นหรือบุคคลภายนอก โดยบริษัทอาจตัดทอน ย่อ เปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงข้อมูลดังกล่าวเพื่อให้เหมาะสมแก่วิธีการนำเสนอ หรือวัตถุประสงค์ในการนำเสนอ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องแจ้งให้ท่านทราบ

16. ท่านจะไม่กระทำการและตกลงที่จะไม่ให้ผู้อื่นส่งข้อมูลใดๆ หรือกระทำการใดๆ ดังต่อไปนี้ (16.1) เป็นการรบกวนบุคคลอื่น หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น หรือฝ่าฝืนสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคลอื่น หรือฝ่าฝืนสิทธิต่อสาธารณะของบุคคลอื่น, (16.2) ซึ่งได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือสิทธิอันมีเจ้าของอื่นๆ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตล่วงหน้าเป็นหนังสือจากเจ้าของสิทธิดังกล่าวแล้ว (16.3) ที่มีไวรัส บั๊ก เวิร์ม โทรจัน หรือโปรแกรมอื่นๆ ที่มีลักษณะเป็นภัยที่อาจรบกวนการทำงานของเว็บไซต์ รวมทั้งไม่ตั้งใจใช้งานเว็บไซต์หนักหรือโหลดข้อมูลขนาดใหญ่ใส่เว็บไซต์โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือจงใจทำให้เป็นภัยต่อการให้บริการของเว็บไซต์ (16.4) ซึ่งถูกใช้เพื่อการสมคบกันต่อต้านบุคคลอื่นอันเป็นการจำกัดทางการค้าหรือแข่งขัน หรือ (16.5) ซึ่งก่อให้เกิดความรับผิดใดๆ ต่อบริษัท หรือทำให้บริษัทต้องสูญเสียซึ่งบริการของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตหรือซัพพลายเออร์อื่นๆ ของบริษัท ทั้งนี้ ท่านตกลงเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในค่าเสียหายใดๆ อันเป็นผลจากการกระทำของท่าน หรือความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ อันเป็นผลจากการใช้เว็บไซต์ของท่าน

17. ท่านตกลงและยอมรับว่าเว็บไซต์นี้อาจมีการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ ซึ่งการเชื่อมต่อนี้เพื่อช่วยให้ท่านค้นหาเว็บไซต์ บริการ และหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย บริษัทไม่มีอำนาจที่จะควบคุม รับรอง ยืนยันความถูกต้องหรือความน่าเชื่อถือ หรือรับผิดชอบในเนื้อหาของเว็บไซต์อื่นๆ ของบุคคลภายนอก หรือการเชื่อมต่อใดๆ ที่บรรจุอยู่ในเว็บไซต์อื่นๆ ของบุคคลภายนอก การตัดสินใจว่าบริการและหรือผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอผ่านเว็บไซต์อื่นๆ เหล่านั้นสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของท่านหรือไม่จะเป็นความรับผิดชอบของท่านเอง บริษัทไม่สามารถควบคุมและจะไม่รับผิดชอบเนื้อหาของเว็บไซต์อื่นๆ เหล่านั้นทั้งสิ้น บริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกำหนดถึงการรับประกันใดๆ หรือต้องรับภาระค่าเสียหายที่เกี่ยวพันกับเจ้าของ หรือผู้ดำเนินงานของเว็บไซต์อื่นๆ รวมตลอดไปจนถึงความเสียหายที่เกิดจากข้ออ้างใดๆ ก็ตามที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาต่างๆ ของเว็บไซต์ของบุคคลที่สามนั้น

18. บริษัทสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข เพิ่มเติมข้อมูลเนื้อหาในเงื่อนไขและข้อกำหนดการใช้เว็บไซต์โดยไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้า ท่านยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อกำหนดการใช้เว็บไซต์ดังกล่าวทุกประการ ท่านมีหน้าที่จะต้องอ่านรายละเอียดของเงื่อนไขและข้อกำหนดการใช้เว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ท่านได้อัพเดตข้อมูลเนื้อหาในเงื่อนไขและข้อกำหนดการใช้เว็บไซต์อยู่ตลอด

19. บริษัทสงวนสิทธิ์ในการไม่อนุมัติ ยกเลิก หรือระงับการใช้งานหรือสถานะสมาชิกของท่านไม่ว่าจะโดยเป็นการชั่วคราวหรือเป็นการถาวร โดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลและโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า

20. บริษัทสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขข้อมูลและหรือรูปแบบการแสดงใดๆ ของข้อมูลท่าน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนตัว หรือข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สินค้า บริการ กิจกรรม หรือข้อมูลอื่นตามที่บริษัทเห็นว่าเหมาะสมและสมควรโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า

21. บริษัทสงวนสิทธิ์ในการตรวจสอบข้อมูลของท่าน จัดส่งข้อมูลของท่านให้แก่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานราชการหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเมื่อได้รับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องในกรณีที่ท่านกระทำการใดๆ อันเป็นการผิดเงื่อนไขและข้อกำหนดการใช้เว็บไซต์ หรือในกรณีที่ท่านอาจกระทำผิดกฎหมายหรือกระทำการใดอันเป็นการละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดตามที่เห็นว่าเหมาะสม

22. บริษัทสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข หรือยกเลิกข้อเสนอของบริษัทหรือของบุคคลใดที่ได้กระทำผ่านเว็บไซต์โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าในกรณีที่มีความจำเป็น หรือสมควร หรือในกรณีที่เห็นว่าข้อเสนอนั้นอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือมีข้อผิดพลาด หรืออาจก่อให้เกิดความสับสนใดๆ ทั้งนี้ไม่ว่าท่านจะได้ใช้สิทธิไปแล้วหรือไม่ก็ตาม หากท่านได้ลงทะเบียนไว้กับธุรกิจออนไลน์ในเครือของบริษัทแห่งใดแห่งหนึ่ง ข้อมูลของท่านอาจถูกนำไปใช้โดยบริษัทเหล่านั้นเพื่อเสนอสิ่งที่อยู่ในความต้องการทางธุรกิจของท่าน เทคโนโลยีที่เรียกว่า “คุกกี้” (Cookies) อาจมีการนำมาใช้เพื่อนำเสนอข้อมูลที่ได้รับการออกแบบให้ตรงกับความต้องการของท่าน คุกกี้ เป็นองค์ประกอบย่อยของข้อมูลที่เว็บไซต์จะส่งไปยังเบราว์เซอร์ของท่าน หลังจากนั้น คุกกี้ จะถูกนำไปเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ในคอมพิวเตอร์ของท่าน ซึ่งจะทำให้บริษัททราบได้เมื่อท่านกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทในครั้งต่อไป คุกกี้ จะทำให้บริษัทสามารถจัดการเกี่ยวกับความสนใจของท่านได้อย่างเหมาะสม เพื่อจะทำให้ท่านกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทได้มากขึ้นอีก

1. หลักการและเหตุผล
บริษัท ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท” ได้ตระหนักและให้ความสําคัญกับข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) ของเจ้าของข้อมูล เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎเกณฑ์ที่กําหนด บริษัทจึงได้จัดระบบเพื่อควบคุมดูแลอย่างเข้มงวดและรัดกุม เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลปลอดภัย มีเสถียรภาพ และ การประมวลผลข้อมูลเป็นไปอย่างโปร่งใส

2. ขอบเขตการใช้
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบถึงแนวทางปฏิบัติของบริษัทในส่วนที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล เช่น การเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่างๆ ของเจ้าของข้อมูล เป็นต้น นโยบายฉบับนี้มีผลใช้บังคับกับทุกกิจกรรมในการดําเนินงานของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้นว่า ประเภทและรูปแบบของข้อมูลที่จัดเก็บ ช่องทางการจัดเก็บข้อมูล วัตถุประสงค์ของบริษัทในการเก็บรวบรวมข้อมูล การนําข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้กับบุคคลอื่น ตลอดจนวิธีการที่บริษัทดําเนินการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล

3. วัตถุประสงค์
เพื่อให้เจ้าของข้อมูลได้รับทราบถึงนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ขึ้น

4. ในนโยบายนี้
4.1 "บริษัท" หมายความว่า บริษัท ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทย่อย
4.2 "บริษัทย่อย" หมายความว่า บริษัทลูก บริษัทในเครือ บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน หรือ บริษัทที่อยู่ภายใต้การควบคุมเดียวกัน
4.3 “ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทําให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
4.4 "เจ้าของข้อมูล" หมายความว่า บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้นว่า ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ คู่ค้า ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือ Mobile Application ของบริษัท ผู้บริหารหรือพนักงานของบริษัท รวมถึงบุคคลใดที่มีนิติสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับบริษัท
4.5 "บุคคล" หมายความว่า บุคคลธรรมดา
4.6 "การเก็บรวบรวม" หมายความว่า การทําให้ได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล
4.7 "การประมวลผลข้อมูล" หมายความว่า การดําเนินการใด ๆ ซึ่งกระทําต่อข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดระบบ การเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย การเปลี่ยนแปลง หรือการกระทําอื่นใดซึ่งทําให้เกิดความพร้อมใช้งาน หรือการผสมเข้าด้วยกัน การลบ การทําลาย

5. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
5.1 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทําภายใต้วัตถุประสงค์และเพียงเท่าที่จําเป็นตามกรอบวัตถุประสงค์หรือเพื่อประโยชน์ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม โดยจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบและขอความยินยอมก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงรายละเอียดดังต่อไปนี้

5.1.1 วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมเพื่อการดําเนินงานตามวัตถุประสงค์ของบริษัทในการให้บริการ ปรับปรุงคุณภาพเครือข่าย การคํานวณและการเรียกเก็บค่าใช้บริการ การศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัทให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูล เพื่อเสนอสิทธิประโยชน์ตามความสนใจของเจ้าของข้อมูล เพื่อการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อการดําเนินการเกี่ยวกับการพนักงาน เพื่อการกระทำอื่นที่เจ้าของข้อมูลให้ความยินยอม หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อยกเว้นของกฎหมาย หากมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม บริษัทจะประกาศให้เจ้าของข้อมูลทราบโดยเร็ว

5.1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ทําการเก็บรวบรวมและระยะเวลาในการเก็บรวบรวม บริษัทจะทําการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล เช่น ชื่อ สกุล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด เพศ ประวัติการศึกษา หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เลขประจําตัวประชาชน ข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต เลขบัญชีธนาคารหรือข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการธนาคารหรือการชําระเงิน หมายเลขไอพี หมายเลขบริการ Cookies MAC Address บัญชีผู้ใช้ ข้อมูลการใช้บริการ พฤติกรรมการใช้บริการ ความพึงพอใจต่อการใช้บริการ บันทึกการติดต่อสื่อสารของเจ้าของข้อมูลกับบริษัทและข้อมูลอื่นใดที่อาจเกิดขึ้นในขณะที่ใช้บริการกับบริษัท เป็นต้น

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลภายในระยะเวลาที่จําเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลและตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยมีมาตรการรักษาความปลอดภัยตามสมควรเพื่อป้องกันการเข้าถึง การรวบรวม การใช้ การเปิดเผย การทำสำเนา การดัดแปลง การกำจัดข้อมูล หรือความเสี่ยงในลักษณะเดียวกันโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บ หรือบริษัทไม่มีสิทธิในการจัดเก็บ หรือไม่สามารถอ้างฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลแล้ว บริษัทจะดําเนินการลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นด้วยวิธีการที่เหมาะสมและเป็นไปตามกฎหมายต่อไป

5.1.3 กรณีที่เจ้าของข้อมูลต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา หรือเพื่อเข้าทําสัญญา บริษัทจะแจ้งถึงผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลให้เจ้าของข้อมูลทราบด้วย

5.1.4 บริษัทอาจจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมต่อบุคคลหรือหน่วยงานได้ เช่น การเปิดเผยข้อมูลตามคำสั่งศาล หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือกฎหมายให้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวได้ หรือเพื่อความมั่นคง หรือเพื่อการให้บริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น แต่ทั้งนี้ต้องเป็นการเปิดเผยเพียงเท่าที่จําเป็นเท่านั้น

5.1.5 สิทธิของเจ้าของข้อมูล เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอให้ดําเนินการได้ ดังต่อไปนี้
(1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัท
(2) สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตน
(3) สิทธิในการขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ทันสมัย และสมบูรณ์อยู่เสมอ
(4) สิทธิในการขอให้ลบทําลายข้อมูลส่วนบุคคลหรือทําให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
(5) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
(6) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
(7) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กฎหมายที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลกําหนด เว้นแต่เป็นการขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กระทบต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร กระทบต่อเศรษฐกิจและการพาณิชย์ของประเทศ มีผลต่อการสืบสวนสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล หรือกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น โดยเจ้าของข้อมูลสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ได้ตามช่องทางที่บริษัทกําหนด ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลไม่จําเป็นต้องเสียใช้จ่ายใด ๆ ในการดําเนินตามสิทธิข้างต้น บริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคําร้องขอของเจ้าของข้อมูลภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคําร้องขอดังกล่าว

5.2 บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลโดยตรง เมื่อเจ้าของข้อมูลให้ความยินยอมมาอย่างสมัครใจ โดยวิธีการใดวิธีการหนึ่งดังต่อไปนี้

5.2.1 แบบคําขอใช้บริการ หรือขั้นตอนการยื่นคําร้องขอใช้สิทธิต่าง ๆ
5.2.2 การทําแบบสอบถาม หรือการโต้ตอบทางอีเมล
5.2.3 ทาง Website หรือ Mobile Application ของบริษัท
5.2.4 ทางข้อความสั้น (SMS)
5.2.5 ช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ระหว่างเจ้าของข้อมูลกับบริษัทตามแบบวิธีของบริษัท

5.3 บริษัทมีนโยบายคุกกี้ (Cookies) ตามที่บริษัทกําหนด (Cookies Link)

5.4 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ทางบริษัทจัดเก็บบางส่วนอาจมีลักษณะอ่อนไหว บริษัทจะแจ้งขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง เป็นต้นว่า เชื้อชาติ สถานะการสมรส ความเชื่อทางศาสนา ปรัชญา ความคิดเห็นทางการเมือง ข้อมูลด้านสุขภาพ พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ เมื่อมีความจําเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

5.5 กรณีที่เจ้าของข้อมูลให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น คู่สมรส สมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อน เป็นต้น แก่บริษัท ตัวอย่างเช่น อาจระบุเป็นที่อยู่ ติดต่อฉุกเฉิน เจ้าของข้อมูลจะต้องรับรองและรับประกันว่า เจ้าของข้อมูลได้รับความยินยอมให้มีการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ตามที่ระบุไว้ในนโยบายนี้

5.6 กรณีที่ลักษณะของการบริการรวมถึงผลิตภัณฑ์ของบริษัทอาจต้องทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ในกรณีดังกล่าวนี้ บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ ซึ่งรวมถึงการขอความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้ใช้อำนาจปกครองตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

6. การใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
การใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือเป็นการจําเป็นเพื่อประโยชน์ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ทั้งนี้ บุคคล หน่วยงาน ที่บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล โดยจําเป็นต้องส่งข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปยังบุคคล หรือหน่วยงานภายนอกใด ๆ เช่น คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือหน่วยงานด้านความมั่นคง เป็นต้น ทั้งนี้ให้ดําเนินการเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือเชื่อโดยสุจริตว่ากฎหมายได้กำหนดให้กระทำเพียงเท่าที่จําเป็นเท่านั้น

7. บริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนหรือในขณะทําการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ในกรณีดังนี้
7.1 เพื่อประโยชน์ที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล
7.2 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลหรือบุคคลอื่น
7.3 เพื่อปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อใช้ในการดําเนินการตามคําขอของเจ้าของข้อมูลก่อนเข้าทําสัญญานั้น
7.4 เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดําเนินการภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อํานาจรัฐ
7.5 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายที่ครอบคลุมในกิจการของบริษัท
7.6 เป็นการปฏิบัติตามคําสั่งศาล หรือที่กฎหมายกําหนด เช่น พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกํากับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นต้น
7.7 เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว

8. คุณภาพของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะดําเนินการให้คุณภาพของข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมนั้นให้ถูกต้องเป็นปัจจุบันตามที่เจ้าของข้อมูลแจ้งและไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

9. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย
เพื่อประโยชน์ในการรักษาความลับ ความถูกต้องครบถ้วน และความพร้อมใช้ของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ดังนี้

9.1 บริษัทป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ ดัดแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต

9.2 บริษัทจำกัดคนเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลไว้สำหรับพนักงานที่จำเป็นต้องทราบข้อมูลนั้น เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลให้ โดยพนักงานเหล่านั้นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับตามสัญญาอย่างเข้มงวด

9.3 บริษัทจัดให้มีมาตรการการยืนยันตัวตน (Authentication) กําหนดสิทธิ (Authorization) และการบันทึกกิจกรรม (Accounting) ในการเข้าถึง การใช้ การ เปิดเผย การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศของบริษัทอย่างเคร่งครัด

9.4 ในกรณีที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ รวมถึงการนําข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บบนฐานข้อมูลในระบบอื่นใด ซึ่งผู้ให้บริการรับโอนข้อมูลหรือบริการเก็บข้อมูลอยู่ต่างประเทศนั้น บริษัทจะจัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอหรือเทียบเท่ากับมาตรการตามนโยบายนี้ เว้นแต่เป็นไปตามกฎหมาย หรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล

9.5 ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของบริษัท จนเป็นเหตุให้มีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลสู่สาธารณะ บริษัทจะดําเนินการแจ้งเจ้าของข้อมูลให้ทราบโดยเร็ว รวมทั้งแจ้งแผนการเยียวยาความเสียหายจากการละเมิดหรือรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลสู่สาธารณะ ในกรณีที่เกิดจากความบกพร่องของบริษัทที่ส่งผลต่อสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทจะไม่รับผิดชอบในกรณีความเสียหายใด ๆ อันเกิดจากการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลที่สาม รวมถึงการละเลย หรือเพิกเฉยการออกจากระบบ (Log Out) ที่เจ้าของข้อมูลได้เข้าใช้งาน โดยการกระทําของเจ้าของข้อมูลหรือบุคคลอื่นซึ่งได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล

9.6 บริษัทมีการดําเนินการสอบทานและประเมินประสิทธิภาพของระบบคอมพิวเตอร์เพื่อทําการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลให้มีประสิทธิภาพ

10. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ Website อื่น
นโยบายฉบับนี้ใช้เฉพาะสําหรับการให้บริการของบริษัทและการใช้งาน Website และ Mobile Application ของบริษัทเท่านั้น หากเจ้าของข้อมูลได้เยี่ยมชม Website หรือเข้าใช้ Mobile Application อื่น (แม้จะผ่านช่องทางใน Website หรือ Mobile Application ของบริษัทก็ตาม) บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการปฏิบัติเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้โดย Website อื่น เจ้าของข้อมูลจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏใน Website หรือ Mobile Application นั้น ๆ แยกต่างหากจากของบริษัท

11. ความรับผิดชอบของบุคคล
บริษัทกําหนดให้พนักงานหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลต้องให้ความสําคัญ และรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้อย่างเคร่งครัด โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทําหน้าที่กํากับดูแลภาพรวมตามนโยบายให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิผล

12. การทบทวนนโยบาย
บริษัทจะทําการทบทวนนโยบายนี้เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องหรือในกรณีที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ บริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบด้วยการ Update ข้อมูลลงใน Website ของบริษัทโดยเร็วที่สุด โดย ถือว่าเจ้าของข้อมูลยอมรับนโยบายที่มีการทบทวนหรือเปลี่ยนแปลงนั้นแล้ว ทั้งนี้ บริษัทจะไม่แจ้งการทบทวนหรือเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้เจ้าของข้อมูลทราบเป็นรายบุคคล ปัจจุบันนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ถูกทบทวนครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2564

13. หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อ:
บริษัท ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จำกัด (สำนักงานใหญ่)
75/120-121 ชั้น 42 อาคารโอเชี่ยนทาวเวอร์ 2 ซอยสุขุมวิท 19 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
โทรศัพท์ : +662-665-1999
โทรสาร : +662-665-1977
E-mail : [email protected]
บริษัทจะพยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ไขข้อกังวลและข้อมูลที่ท่านแจ้งมายังบริษัท